1.การรับคนพิการเข้าทำงาน ตามมาตรา 33 จะต้องมีลักษณะเป็นการจ้างแรงงานตามนิยาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 ตามนิยามคำว่านายจ้าง ลูกจ้าง ซึ่งการรับคนพิการเข้าทำงานตามมาตรา 33 ของหน่วยของรัฐจะต้องมีลักษณะเช่นเดียวกับคำว่า ผู้ปฎิบัติงาน ตามตามข้อ 2 ของกฎกระทรวงกําหนดจํานวนคนพิการที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐจะต้องรับเข้าทํางาน และจํานวนเงินที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องนําส่งเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2554 // 2.การให้สัมปทานตามมาตรา 35 ตามระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาช่วงงานหรือจ้างเหมาบริการโดยวิธีกรณีพิเศษ ฝึกงาน หรือจัดให้มีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ล่ามภาษามือ หรือให้ความช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ พ.ศ. 2558 มีลักษณะดังนี้ 1) การให้สัมปทาน 2) การจัดสถานที่จำหน่ายสินค้า หรือบริการ 3) การจัดจ้างเหมาช่วงงานหรือการจ้างเหมาบริการ 4) การฝึกงาน 5) การจัดให้มีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก 6) การจัดให้มีบริการล่ามภาษามือ 7) การช่วยเหลืออื่นใด ซึ่งการที่หน่วยงานของรัฐอนุญาต ให้คนพิการเข้ามาเปิดเวที ร้องเพลง อาจถือว่ามีลักษณะเป็นการจัดสถานที่จำหน่ายสินค้า หรือบริการ ตามมาตรา 35 แต่ทั้งนี้ จะต้อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตามที่ระเบียบฯ กำหนด ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากกรมการจัดหางาน และการดำเนินการดังกล่าวต้องไม่ขัดกับกฎหมายอื่น