นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เปิดเผยหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงฯ ครั้งที่ ๘/๒๕๕๕ เมื่อวันพุธที่ ๒๖ ธ.ค.๕๕ ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ เวลา ๑๕.๓๐ น.ว่า จากการติดตามความคืบหน้าในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ) (กพช.) ครั้งที่ ๓/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๕

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงฯ ครั้งที่ ๘/๒๕๕๕ เมื่อวันพุธที่ ๒๖ ธ.ค.๕๕ ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ เวลา ๑๕.๓๐ น.ว่า จากการติดตามความคืบหน้าในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ) (กพช.) ครั้งที่ ๓/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๕ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าในการดำเนินงาน เรื่อง การสนับสนุนมาตรการผลักดันการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการและทุกคนในสังคมเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งขณะนี้ ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เห็นชอบข้อเสนอดังกล่าว พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดเป้าหมาย แผนการดำเนินงาน และแผนการใช้จ่ายเงินในการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และเสนอแผนดังกล่าวในที่ประชุมเชิงปฎิบัติการการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี ๒๕๕๘ เพื่อเป็นกรอบการจัดสรรงบประมาณประจำปี ๒๕๕๗ ต่อไปตามความเห็นชอบของสำนักงบประมาณ รวมทั้งให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และหน่วยงานดังกล่าว รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในส่วนที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

นายสันติพร้อมพัฒน์ กล่าวต่อว่า สาระสำคัญของมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย ๑.ให้สำนักงบประมาณสนับสนุนงบประมาณสำหรับการก่อสร้างอาคารใหม่ของหน่วยงานหรืออาคารเก่าต้องปรับปรุง หรือจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวก ให้คนพิการและทุกคนในสังคมเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ของหน่วยงานราชการ ไม่น้อยกว่า ๕ ประเภท ได้แก่ ทางลาด ห้องน้ำ ที่จอดรถ ป้าย/สัญลักษณ์ และบริการข้อมูลข่าวสาร แห่งละ ๓๐๐,๐๐๐ บาท ๒.ให้ทุกหน่วยงานกำหนดเป้าหมายการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการจนถึงปี ๒๕๕๘ พร้อมทั้งดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี ๒๕๕๘ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และ ๓.ให้ทุกหน่วยงานรายงานผลการดำเนินงานทุกรอบ ๖ เดือน พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผล ความจำเป็นกรณีไม่สามารถดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่หน่วยงานกำหนดไว้ โดยให้สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นผู้รวบรวมผลการดำเนินงานเพื่อนำเสนอ ครม.ต่อไป